Wednesday, December 4, 2013

มาจัดการ Source Code ของเราด้วย Github กันเถอะ

เกริ่น

สวัสดีครับ บทความนี้ผมจะมาแสดงขั้นตอนแบบที่พยายามให้ง่ายๆ เร็วๆ แล้วของหนทางที่เราจะเก็บ และจัดการ files source code ไว้ที่ Github ซึ่งเป็น Social Source Control ที่ใช้งานง่าย และ free โดยผมจะใช้ TortoiseGit เป็นตัว client นะครับก็ใครที่คุ้นๆกับ  Tortoise กับ SVN ก็จะทราบว่ามันใช้งาน และสอนได้ง่ายมากๆ
ข้อดีของการจัดการ Source Controle โดยใช้ Github นี่ก็คือ free software กับไม่ต้องเสียค่าบำรุงค์ hardware ของ repositories server เลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว มั่นใจในความปลอดภัยได้เลย และผมสามารถแชร์ source code ให้ใครบนโลกใบนี้ทบทวน แก้ไขได้ด้วยตามที่ผมต้องการ นี่ยังไม่รวมเครื่องมือที่ plugin เข้ามาเอา source code ของผมไปวิเคราะห์ ไปทำไรต่อมิอะไรอีกนะครับเนี่ย เอาแค่นี้ครับ เรามาเริ่มใช้มันกันเลยดีกว่า

เครื่องมือต้องมีก่อน

1. ลงทะเบียน Github ที่นี่ก่อนครับ https://github.com/เข้าแล้วจะแสดงตามภาพข้างล่างนี้
2. กดที่ปุ่ม Plans, Pricing and Signup Unlimited public repositories are free!(ก็เจ้าปุ่มใหญ่ๆสีฟ้านั่นแหละ) พอกดแล้วมันจะแสดงหน้า page ต่อไปแบบนี้
3. ใส่ Username, Email Address, Password ของคุณลงไป แต่ไม่ต้องตามภาพของผมนะครับ แล้วกดปุ่ม Create an account
ตอนนี้ผมก็ได้ลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปผม จะสร้าง repository เพื่อเก็บ source code ครับ

สร้าง Github Repository

1. login เข้ามาแล้วกดไปที่ tab Dashboard ด้านบน และกด Create a Repository ตามภาพ
2. กรอกชื่อ repository และ description เล็กน้อย ตามภาพครับ
3. กรอกเสร็จก็กด Create Repository เลยครับ มันจะแสดงตามภาพ
เอาละถึงตรงนี้ คุณก็จะมี repository ที่ชื่อว่า DemoRepository แล้ว ขั้นต่อไปก็ใช้งานมันกันเลย

ลงมือทำกันเลย… Actions!

1. download และ ติดตั้ง Git client จาก http://git-scm.com/download บทความนี้ผมใช้ OS window ครับ
2. มันไม่สะดวกนักที่จะใช้งาน Git client ตามปกติ ผมจึง donwlaod TortoiseGit มาใช้งานดีกว่า donwload ได้ที่ http://code.google.com/p/tortoisegit/ เมื่อได้ Tortoisegit แล้วก็ติดตั้งซะ
3. ไปที่ drive ไหนของคุณก็ได้ click ขวาพื้นที่ว่างๆตรงไหนก็ได้ มันจะขึ้น menu ที่มีเครื่องมือ TortoiseGit เพิ่มขึ้นมา ให้เลือก Git Clone… แล้วใส่ URL ของ DemoRepository  ตามภาพ
 click ขวาพื้นที่ว่างๆตรงไหนก็ได้
ใส่ข้อมูล URL ของ DemoRepository ที่ได้สร้างเตรียมไว้แล้วที่ Github แล้วกด OK
4. มันจะขึ้นหน้าจอเต่าๆให้รอสักพักครับ พอเสร็จแล้วจะเห็น folder DemoRepository ที่ clone มาจาก Github แล้วนั่นเอง
ต่อไปเราก็จะเอา files/folders ของ source code และอะไรต่อมิอะไร ใส่เข้าไปเก็บใน  DemoRepository นี้ของเราได้แล้ว เอาละมาเริ่มสร้าง projects แรกเพื่อจะจัดการ source control นี้ด้วย Github กัน
1. บทความนี้ผมใช้ Visual Studio นะครับ โดยเปิด studio ขึ้นมา New Project… เลือก Console Application แล้วให้เปลี่ยน Location ไปที่ folder DemoRepository  ที่เราได้ clone มาแล้วตามภาพนี้ครับ
2. ขั้นตอนนี้ผมจะ push source code ของ project ConsoleApplication1 ของผมนี้ไปเก็บไว้ที่ Github DemoRepository ของผม โดยไปที่ folder DemoRepository  บมเครื่องแล้ว click ขวาจะแสดง menu ไปที่ tool ของ TortoiseGit เลือก Git Commit -> “master” … ตามภาพนี้
3. ต่อไปก็ทำตามขั้นตอนตามภาพข้างล่าง
 push file ครั้งแรก TortoiseGit จะเตือนเราให้ setting กันก่อน ให้กด OK
  ให้ระบุ Name และ Email ที่ได้ลงทะเบียนไว้ที่ Github ลงไป แล้วกด Ok
 กรอก comment message และเลือก file ที่จะ push ทั้งหมดเข้าไปที่ DemoRepository แล้วกด OK
 กด push ครับ การ Success ครั้งแรกนี้ มันคือการ commit file ที่เครื่อง local ของเราก่อน การกด push ครั้งที่สองนี้ มันคือการเก็บ file ทั้งหมดนี้ไปที่ Github ครับ
 มันจะถาม username กับ password ที่เราได้สมัครไว้ที่ Github ทุกๆครั้งที่มีการ push files ไปที่ Repository Github กรอกลงไป แล้วกด OK
 เสร็จแล้วครับ ไม่สิ อ่านดีๆ เกิด error 403 ครับ คงจะใส่ password ผิดแน่ๆ แต่ไม่เป็นไร ให้คุณกลับไปที่ folder DemoRepository ที่เครื่องของคุณครับ แล้ว click ขวาที่ folder นี้เลือก menu TortoiseGit >Push แล้วใส่ username กับ password อีกทีครับ
หลังจากนั้น ให้กลับไปดูที่หน้า web Github DemoRepository จะพบว่า project แรกของผมนี้ได้เข้าไปอยู่ในการควบคุมของ Github DemoRepository เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผมก็ขอจบบทความเพียงเท่านี้

Monday, December 2, 2013

มาใช้ share folder และ usb device บน VirtualBox กัน

หลังจากที่ได้กลับมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกะเจ้าตุ้ยนุ้ย lenovo เครื่องเก่าอีกครั้ง หลังจากไปหลงเสน่ห์ของของความขาวบางขาเล็กสเป็คเบาๆของเจ้า vaio w มาตั้งนาน ก็เลยได้ฤกษ์งามยามดีจับแก้ผ้า เอ้ย!!! จับลงubuntu 10.04 LTS หรือเจ้า Lucid Lynx ที่เพิ่งออกสดๆใหม่ๆ โดยความตั้งใจว่าจะตีตัวออกห่างจาก Windows  อย่างจริงๆจังๆสักที (แต่งานที่ทำหลีกหนีไม่ได้จริงๆ TT) ก็เลยจำเป็นต้องลงโปรแกรม VirtualBox ไว้คอยลงเจ้า Windows แบบเสมือนไว้ทดลอง และใช้งานกันไปต่อไป
วันนี้ก็เลยมีวิธีตั้งค่าให้ ubuntu ของเรา share folder มาใช้ยัง VirtualBox และการตั้งค่าให้ VirtualBox สามารถเสียบ Flash drive เพือใช้งานได้ อิอิ ประโยชน์เยอะแยะ
มาเริ่มกันที่การ share folder กันเลยดีกว่า
เมื่อเราทำการสร้างตัว Virtual กันมาเรียบร้อยแล้ว ก็คลิ๊กที่ Settings
เมื่อเข้ามาที่ Settings แล้วมาที่เมนู Shared Folder แล้ว คลิ๊ก รุป Folder ที่มีเครื่องหมาย + เพื่อเลือก Folder ที่ต้องการ Share
เมื่อเสร็จแล้วก็ทำการรันตัว Virtual ในที่นี้ใช้ Windows Server 2003 แล้วทำการติดตั้ง Install Guest Additions ที่เมนู Devices
เข้า My Computer ที่เมนู Tools เลือก Map Network Drive(Windows อื่น ลองหาดูเองนะครับ :p)
ใน Folder ให้ใส่
\\vboxsvr\\sharename
ซึ่ง sharename ก็คือชื่อ Folder ที่ต้องการ share ที่ได้ตั้งไว้ที่หน้า Settings ในตอนแรก
เมื่อคลิ๊ก Finish ก็จะได้ Share Folder ขึ้นมาเป็น Drive ดังรูป
เป็นอันเรียบร้อยครับ :)
ต่อไปก็ถึงคิวของ Flash drive บ้าง
เมื่อเราใช้งาน VirtualBox แล้วทำการเสียบ flash drive เข้าไปก็จะพบว่าโปรแกรมนั้นเห็นตัว flash drive นั่นอยู่ แต่ไม่สามารถใช้งานได้
วิธีแก้ก็ง่ายๆดังนี้
ทำการเพิ่ม ชื่อ user ของเราให้เข้าไปอยู่ใน Group ของ vboxusers โดยใช้คำสั่ง
sudo nano /etc/gruop
เพิ่มชื่อของเราเข้าไปใน vboxusers
vboxusers:x:123:psuntra
แล้วก็ทำการเซฟให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ Log out แล้ว Log in เข้าระบบใหม่ ก็จะสามารถใช้ usb ได้ดังใจแล้ว
วันนี้ก็ขอจบ trip เล็กๆน้อยๆสำหรับ VirtualBox ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงมีประโยชน์ :)

Friday, November 8, 2013

ขั้นตอนการตั้ง Backup Auto และการ Clear Backup Auto ของ Microsoft SQL Server 2005 มีขั้นตอนอย่างไร

ขั้นตอนการตั้ง Backup Auto และการ Clear Backup Auto ของ Microsoft SQL Server 2005 มีขั้นตอนอย่างไร

Q :ขั้นตอนการตั้ง Backup Auto และการ Clear Backup Auto ของ Microsoft SQL Server 2005 มีขั้นตอนอย่างไร
A :มีขั้นตอนการดังนี้ 
1.ไปที่ Start > Program > Microsoft SQL Server 2005 > SQL Server Management Studio
2.เปิดการทำงานของ Service SQL Server
a.เปิด SQL Server Management Studio แล้วคลิ๊กขวาที่ Maintenance Plan Wizard

b.หน้าต่าง Maintenance Plan Wizard กด Next

3.หน้าต่าง Maintenance Plan Wizard
a.Name : ระบุชื่อ Plan ที่ต้องการกำหนด
b.Description: ระบุหมายเหตุที่ต้องการอธิบายข้อมูลต่างๆ

c.เลือก Chang เพื่อกำหนด Plan ตั้ง Backup Auto จะแสดงหน้าต่าง Job Schedule Properties กำหนดข้อมูลที่ต้องการตั้งเวลา

-Frequency กำหนดการตั้งเวลาว่าต้องการตั้งเป็น Day, Week, Monthly
-Daily Frequency กำหนดเวลาที่ต้องการตั้ง Backup Auto
จากนั้นกด OK และกด Next
d.หน้าต่าง Maintenance Plan Wizard ให้กด Next

4.หน้าต่าง Maintenance Plan Wizard ให้เลือกที่
-Back Up Database (Full)
-Maintenance Cleanup Task นี้จะใช้กำหนดการตั้ง Clear Backup เก่าที่ได้ backup เก็บไว้
จากนั้นกด Next

5.หน้าต่าง Maintenance Plan Wizard
a.เลือกที่ Move Up หรือ Move Down เพื่อปรับ Plan ให้มองที่ Backup Database (Full) เป็นลำดับแรก (เป็นการเลือกตั้งลำดับก่อนและหลัง)
b.จากนั้นกด Next

6.หน้าต่าง Maintenance Plan Wizard / Define Backup Up Database (Full) Task
a.Database(s) เลือก base ที่ต้องการตั้ง backup Auto จากนั้นกด OK.

b.Create a backup file for every database หากต้องการเปลี่ยน path ที่จะจัดเก็บตัว backup ให้เลือกและ brow เข้าไปเพื่อเปลี่ยน path หากไม่ต้องการเปลี่ยน path โปรแกรมจะ default ที่ path ลง SQL ครั้งแรก
c.จากนั้น กด Next

7. Define Maintenance Cleanup Task หน้าต่างนี้เป็นการกำหนด Option เพื่อลบข้อมูลที่ Backup Auto ไว้
กำหนดที่ช่อง
a.Delete files of the following type: เลือกกำหนดเป็น Backup File
b.Search folder and delete files based on an extension : เลือก option path file ของ path ที่จัดเก็บ backup ไว้ในการตั้ง clear backup auto
c.Remove historical data older than : เลือกเพื่อกำหนดระยะเวลาในการ clear backup auto
d.กด Next

8.หากต้องการให้แจ้งรายละเอียดของการตั้ง backup สามารถกำหนดได้เป็น 2 option คือ
- จัดเก็บไว้ตาม path ที่ระบุไว้
-ส่ง e-mail แจ้ง

หากไม่ต้องการกำหนดให้ กด Next
9.Maintenance Plan Wizard / Complete the Wizard กด Finish

10.Maintenance Plan Wizard Progress โปรแกรมจะแสดงผลการตั้ง Backup Auto ให้ หากผลการตั้งเรียบร้อยจะแสดงผลเป็น Success


source : http://www.prosoft.co.th/index.php?option=com_content&task=view&id=3553&Itemid=4191

Tuesday, November 5, 2013

[Android Studio] : วิธีสร้างโปรเจคใหม่

        ตอนแรกเจ้าของบล๊อกได้เขียนบทความ วิธีติดตั้ง Android Studio ซึ่งเห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบทความนี้
เยอะเหมือนกัน บทความเก่าจะรวมวิธีการลงโปรแกรมและวิธีการสร้างโปรเจคใหม่ด้วยกัน ทำให้เนื้อหา
ค่อนข้างยาวมาก เลยคิดว่าการแยกออกมาเป็นคนละบทความน่าจะสะดวกในการอ่านมากกว่า

เลยแยกออกมาเป็นอีกบทความ ถ้ายังไม่ได้ลงโปรแกรม Android Studio สามารถไปอ่านวิธีการติดตั้ง
โปรแกรมได้ที่ วิธีติดตั้ง Android Studio มาเริ่มสร้างโปรเจคแอนดรอยด์กันดีกว่า :3



ขั้นตอนการสร้างโปรเจคใหม่
14-8-2556 14-37-11
1. เมื่อเปิดโปรแกรมมาจะเจอหน้าจอแบบนี้ เลือก New Project 



2.  แน่นอนว่าโปรแกรมแรกของทุกภาษา HelloWorld! เสร็จแล้วกด Next 



3. หน้าจอไอคอน คล้ายๆ กับ adt-bundle ตัวเก่า กด Next 



4. เลือก Blank Activity แล้วก็กด Next 



5. Activity Name : MainActivity  (ชื่อ Activity)
     Layout Name : activity_main (ชื่อ Layout XML) 
     จากนั้นกด Finish เป็นอันจบพิธีการสร้างโปรเจคฮับ



6. เมื่อเปิดโปรแกรมมาจะเจอหน้าจอแบบนี้ กดปิด Tip of Day ไปเลยเราไม่อ่าน อิอิ



7. คลิ๊กเลือก Project อันนี้จะเป็นลำดับไฟล์ต่างๆ แตกต่างไปจาก adt-bundle ตัวเก่านิดนึง 



8. เชื่อว่าทุกคนมี Error แน่นอนเนื่องจากเรายังไม่ได้เลือก Project SDK เนื่องจากเจ้าของบล๊อก
มีการทดลองลงโปรแกรมก่อนแล้วแล้วถอนโปรแกรมออกไป เพื่อลงอีกครั้ง
เพื่อมาเขียนในบทความครั้งนี้จึงไม่มี Error ให้เห็น ไปที่ File –>Project Structure 



8. เมื่อไปที่  File –>Project Structure  จะเจอหน้าจอดังนี้ ตรง Project Setting
ให้เลือก Project –> Project SDK : Android SDK ( java version "1.7.0_17" ) แล้วคลิ๊ก OK 


ขั้นตอนการ Create new AVD
1. ขั้นตอนนี้จะทำการสร้าง Emulator เพื่อมาทดสอบรันโปรแกรม Hello World ของเรา
ที่สร้างไปแล้วก่อนหน้านี้ไปที่ Tools –> Android –> SDK Manager จะเจอหน้าจอดังภาพ
เลือกโหลด Intel x86 Atom System Image เห็นมีคนบอกว่าโหลดตัวนี้
จะลื่นไหลเปรียบเสมือนดั่งเทสกับเครื่องจริง



2. เมื่อโหลดเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จะมาสร้างตัว Emulator เพื่อมาทดสอบรันโปรแกรมกันนะคะ
ไปที่ Tools –> Android –> ADV Manager เมื่อเปิดแล้วจะได้หน้าจอดังภาพกดเลือก New



3. ADV Name : ตั้งชื่อตามใจชอบเลยคะ
   CPU/ABI : เลือก Intel Atom (x86) ตัวที่เราโหลดมา
   ส่วนอื่นๆ ขั้นตอนนี้ตั้งค่าตามภาพได้เลยคะ เมื่อเสร็จแล้วก็กด OK



4. เมื่อกด OK จะแสดงหน้าจอดังนี้ รายละเอียดของ ADV ที่เรา config



5. กลับมาหน้าจอเดิมคะ จะเห็นว่ามีตัว Emulator ชื่อ ADV ที่เราได้สร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้นั่นเอง คลิ๊กเลือกแล้วกด Start ADV เลยคะ



6. จะได้หน้าตาของ Emulator แบบนี้ขั้นตอนต่อไปทดลองรันโปรแกรม Hello World ของเรากันคะ



7. กด เครื่องหมายสามเหลี่ยมสีเขียวดังภาพเพื่อรันโปรแกรม



8. หน้านี้จะให้เราเลือก device ของเครื่อง ถ้าเราเสียบสายของเครื่องจริงก็จะแสดงชื่อ device
เพื่อให้เราเลือกรันทดสอบแต่เราทดสอบรันโปรแกรมบน Emulator ก็เลือก Emulator ADV กด OK เลยฮับ



9. เมื่อกดรันโปรแกรมแล้ว  Emulator จะแสดงผลโปรแกรมของเราคะ Hello World!  
เสร็จแล้วคะวิธีสร้างโปรเจคใหม่บน Android Studio ง่ายใช่ไหมละ
ขอให้สนุกกับ  Android Studio ตัวใหม่นี้นะคะ :)