การติดตั้ง MS SQL Server 2005 Express Edition
เพื่อให้ใช้งานได้ บน Lan บทความโดย: มี่
เนื่องจากหลายท่านที่ใช้งานโดยติดตั้ง MS SQL Server 2005 Express Edition แล้วพบว่า
ไม่สามารถใช้งานได้บน LAN และการตั้งค่าให้ใช้งานได้นั้น ก็ไม่ง่ายซะด้วย วันนี้ผมเลยมาเสนอ
วิธีและขั้นตอน เริ่มจากการติดตั้งกันเลย เริ่มด้วยการเตรียมไฟล์ติดตั้ง ทำการ Download
MS SQL Server 2005 Express Edition รวมถึง Components อื่นๆ ที่จำเป็น
เช่น .NET framework 2.0 ถ้าพร้อมแล้ว ก็เริ่มติดตั้งได้เลย
โปรแกรม ติดตั้ง กำลังแตกตัวเอง
อ่านและรับทราบ เงื่อนไขการนำไปใช้ พร้อมแล้ว กด Next
กด Install ให้โปรแกรม ทำการติดตั้ง รอแป๊ปเดียว
เสร็จแล้ว กด next ต่อได้เลย
แล้ว ก็เข้าสู่ Installation Wizard กด Next
ต้องทำการตรวจ Components ตัวอื่นๆ ที่จำเป็นด้วยครับ ถ้า ไม่ผ่านขั้นตอนนี้จะไม่สามารถติดตั้งได้
ต้องไป download หรือ หามาให้ครบ ส่วนคำเตือน Hardware minimun requirements ไม่ต้องสนใจ
Next ได้เลย เชื่อว่า เครื่องเราทำงานได้แน่นอน
รอสักครู่ เสร็จแล้ว กด Next นะ
เริ่มขั้นตอนสำคัญแล้วครับ พิมพ์ชื่อและบริษัทครับ และก็เอา check box ด้านล่างออกด้วย
เพราะเราต้องการระบุรายละเอียดการติดตั้งด้วยตัวเอง ค่า default บางตัวคืออุปสรรค
ในการทำงานบน LAN ครับ แล้วกด Next ต่อได้
เลือกว่าจะติดตั้งอะไรมั่ง สำหรับผมแล้ว ไม่ได้เอาไปทำอะไรมาก เลยเลือกเอาแค่พอใช้งานครับ
ซึ่งถ้าจะเลือกมากกว่านี้ก็ได้ แต่ตามที่เลือก ก็สามารถใช้งานเป็น DB Server สำหรับทำ Development
ได้แล้ว กด Next สู่ขั้นต่อไป
ให้เราทำการกำหนด Instance Name ของ Database Server โดยเราสามารถกำหนด Instance Name ได้เอง
ผมเลือกที่จะใช้ Default Instance เวลาที่จะเรียกใช้ก็สบายดีครับ แต่หากต้องการระบุ Instance Name
ก็พิมพ์ชื่อลงไปเอาเองเลย เสร็จแล้ว กด Next ครับ
ตรงนี้ผมเปลี่ยน ค่าจาก default ของ service account ที่จะใช้เรียก Service ให้ทำงาน
จาก Network Service เป็น Local System ครับแล้ว กด Next
ขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง คือ ต้องกำหนดให้เป็น Mixed Mode เพื่อที่จะได้สามารถ connect
จากเครือข่าย โดยใช้ User Name และ Password ในกรณีสำหรับเครือข่ายที่ไม่มี
หรือไม่ต้องการที่จะใช้บัญชี User ของ Active Directory Domain Controller
แล้วกำหนด Password สำหรับ sa แล้ว กด Next
กด Next เลยครับ ค่า default สำหรับภาษานั้น เหมาะสมดีแล้ว
กด Next ต่อไปได้เลย
Microsoft เขาอยากรู้ข้อมูลบ้าง เลือกเอานะครับ ว่าจะบอกอะไรเขาได้บ้าง แล้วกด Next
สุดท้ายก็สรุปว่าจะติดตั้งอะไรไปบ้าง น้อยนิดจริงๆ เมื่อเทียบกับ Enterprise Edition
กด Install เลยครับ แล้วเดินรอบห้องสองรอบ
ขั้นตอนติดตั้งนี้ ใช้เวลามากที่สุด แต่ไม่นานครับ
เสร็จแล้ว กด Next อีก
สรุปและก็แจ้งอะไรให้ทราบ ลองอ่านดูนะครับ ว่ามีอะไร แต่ถ้าไม่สนใจ
ก็กด Finish แต่ยังไม่ครบถ้วนนะครับ ยังมีอะไรต้องทำต่ออีก
หลังติดตั้งเสร็จ จะยังไม่สามารถใช้งานผ่าน LAN ได้ครับ ต้องทำอะไรอีกนิด คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้
ถ้าไม่อยากรู้ว่าดูยังไงถึงรู้ว่า Services ทำงานแล้วหรือยัง
วิธีดูก็คือ เราต้องรู้ว่า SQL Service ให้บริการรออยู่ที่ port 1433 เราจึงตรวจดูว่าตอนนี้ยังใช้งานไม่ได้
เพราะเรายังไม่ได้เปิด Service ผมเปิด Command Prompt แล้ว พิมพ์ netstat -an | find /i "listen" แล้วกด enter หรือ เอาสั้นๆ netstat -an | find /i "1433" มันจะไม่ขึ้นอะไร
ให้ทำการตั้งค่าต่อโดยเปิด Start menu เลือก SQL Server 2005 Surface Area Configuration จากกลุ่ม MS SQL Server 2005
เป็นโปรแกรมที่เรามักจะหลงมาเปิด แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะเอาไปทำอะไรได้ แต่ตอนนี้ เพื่อให้สามารถใช้งานผ่าน LAN ได้
โปรแกรมนี้เริ่มมีประโยชน์แล้วครับ เริ่มกันเลย ด้านล่างมีลิงค์ Surface Area Configuration for Services
and Connections คลิ๊กเลย
จาก Tree ด้านซ้าย เลือก Remote Connections เลยครับ หน้าจอด้านขวาก็จะเปลี่ยนให้เลือก
โดยค่าเดิมคือ Local connections only (ทำให้เราไม่สามารถ ใช้งานผ่าน LAN ได้)
ให้เลือกค่าใหม่เพื่อให้ใช้งานได้ เลือก Local and remote connections ตัวเลือกย่อย
ให้เลือก Using TCP/IP only นะครับ ตัว name pipes เขาบอกว่า ไม่จำเป็น เพราะมันจะทำให้มีข้อมูล
วิ่งในเครือข่ายมากเกินไป หากเราใช้ LAN อยู่ เพียงแค่ TCP/IP ก็พอแล้ว เลือก และกด Apply
แล้ว กด OK จะมีคำเตือนบอกให้ restart จึงจะมีผล ต่อไปเราจะทำการ Restart SQL Service
ให้คุณ ทำการ restart SQL Service ตามวิธีที่คุณถนัดได้เลย ในที่นี้ผมขอแนะนำให้รู้จัก โปรแกรมเหมือนกับ
SQL Service Manager ใน SQL Server 2000 คือ เปิดโปรแกรม SQL Server Configuration Manager ด้านซ้าย เลือก SQL Server 2005 Services ด้านขวาเลือก SQL Server แล้ว กดปุ่ม restart จากแถบเครื่องมือ
ด้านบน รอสักครู่ก็เสร็จ
เมื่อทำเสร็จทุกขั้นตอนที่ผ่านมา จากนี้คุณก็สามารถใช้งานได้แล้ว คุณสามารถที่จะใช้โปรแกรมตัวใดก็ได้
เช่น Query Analyser, Server Explorer ใน Visual Studion และตัวอื่นๆ ส่วนมากจะใช้ได้ครับ
แต่ยกเว้นตัวหนึ่งที่ไม่สามารถใช้ได้ คือ Enterprise manager ของ MS SQL Server 2000
ผมขอแนะนำให้ใช้ SQL Server Management Studio ครับ มีเวอร์ชั่นสำหรับ Express ด้วย ซึ่ง
Download ได้ครับ ตอนนี้ ผมก็เพิ่มส่วนการทดสอบว่าตอนนี้ Service ของ SQL Server Express ที่เราติดตั้งไว้
ทำงานรอการเชื่อมต่อแล้วหรือยัง ให้เปิด Command Prompt แล้ว พิมพ์คำสั่ง
netstat -an -p tcp | find /i "listening" มองหา บรรทัด ของ port 1433
ถ้ามีก็แีสดงว่าทำงานได้เรียบร้อยแล้ว
*เพิ่มนิดนึงครับ สำหรับ command netstat คุณสามารถปรับแต่ง arguments ได้นะครับ
เช่น netstat -an -p tcp | find /i "1433" แล้ว ผลก็คือ จะมีการคืนผลลัพธ์มา 1 บรรทัด
เพื่อให้ใช้งานได้ บน Lan บทความโดย: มี่
เนื่องจากหลายท่านที่ใช้งานโดยติดตั้ง MS SQL Server 2005 Express Edition แล้วพบว่า
ไม่สามารถใช้งานได้บน LAN และการตั้งค่าให้ใช้งานได้นั้น ก็ไม่ง่ายซะด้วย วันนี้ผมเลยมาเสนอ
วิธีและขั้นตอน เริ่มจากการติดตั้งกันเลย เริ่มด้วยการเตรียมไฟล์ติดตั้ง ทำการ Download
MS SQL Server 2005 Express Edition รวมถึง Components อื่นๆ ที่จำเป็น
เช่น .NET framework 2.0 ถ้าพร้อมแล้ว ก็เริ่มติดตั้งได้เลย
โปรแกรม ติดตั้ง กำลังแตกตัวเอง
อ่านและรับทราบ เงื่อนไขการนำไปใช้ พร้อมแล้ว กด Next
กด Install ให้โปรแกรม ทำการติดตั้ง รอแป๊ปเดียว
เสร็จแล้ว กด next ต่อได้เลย
แล้ว ก็เข้าสู่ Installation Wizard กด Next
ต้องทำการตรวจ Components ตัวอื่นๆ ที่จำเป็นด้วยครับ ถ้า ไม่ผ่านขั้นตอนนี้จะไม่สามารถติดตั้งได้
ต้องไป download หรือ หามาให้ครบ ส่วนคำเตือน Hardware minimun requirements ไม่ต้องสนใจ
Next ได้เลย เชื่อว่า เครื่องเราทำงานได้แน่นอน
รอสักครู่ เสร็จแล้ว กด Next นะ
เริ่มขั้นตอนสำคัญแล้วครับ พิมพ์ชื่อและบริษัทครับ และก็เอา check box ด้านล่างออกด้วย
เพราะเราต้องการระบุรายละเอียดการติดตั้งด้วยตัวเอง ค่า default บางตัวคืออุปสรรค
ในการทำงานบน LAN ครับ แล้วกด Next ต่อได้
เลือกว่าจะติดตั้งอะไรมั่ง สำหรับผมแล้ว ไม่ได้เอาไปทำอะไรมาก เลยเลือกเอาแค่พอใช้งานครับ
ซึ่งถ้าจะเลือกมากกว่านี้ก็ได้ แต่ตามที่เลือก ก็สามารถใช้งานเป็น DB Server สำหรับทำ Development
ได้แล้ว กด Next สู่ขั้นต่อไป
ให้เราทำการกำหนด Instance Name ของ Database Server โดยเราสามารถกำหนด Instance Name ได้เอง
ผมเลือกที่จะใช้ Default Instance เวลาที่จะเรียกใช้ก็สบายดีครับ แต่หากต้องการระบุ Instance Name
ก็พิมพ์ชื่อลงไปเอาเองเลย เสร็จแล้ว กด Next ครับ
ตรงนี้ผมเปลี่ยน ค่าจาก default ของ service account ที่จะใช้เรียก Service ให้ทำงาน
จาก Network Service เป็น Local System ครับแล้ว กด Next
ขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง คือ ต้องกำหนดให้เป็น Mixed Mode เพื่อที่จะได้สามารถ connect
จากเครือข่าย โดยใช้ User Name และ Password ในกรณีสำหรับเครือข่ายที่ไม่มี
หรือไม่ต้องการที่จะใช้บัญชี User ของ Active Directory Domain Controller
แล้วกำหนด Password สำหรับ sa แล้ว กด Next
กด Next เลยครับ ค่า default สำหรับภาษานั้น เหมาะสมดีแล้ว
กด Next ต่อไปได้เลย
Microsoft เขาอยากรู้ข้อมูลบ้าง เลือกเอานะครับ ว่าจะบอกอะไรเขาได้บ้าง แล้วกด Next
สุดท้ายก็สรุปว่าจะติดตั้งอะไรไปบ้าง น้อยนิดจริงๆ เมื่อเทียบกับ Enterprise Edition
กด Install เลยครับ แล้วเดินรอบห้องสองรอบ
ขั้นตอนติดตั้งนี้ ใช้เวลามากที่สุด แต่ไม่นานครับ
เสร็จแล้ว กด Next อีก
สรุปและก็แจ้งอะไรให้ทราบ ลองอ่านดูนะครับ ว่ามีอะไร แต่ถ้าไม่สนใจ
ก็กด Finish แต่ยังไม่ครบถ้วนนะครับ ยังมีอะไรต้องทำต่ออีก
หลังติดตั้งเสร็จ จะยังไม่สามารถใช้งานผ่าน LAN ได้ครับ ต้องทำอะไรอีกนิด คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้
ถ้าไม่อยากรู้ว่าดูยังไงถึงรู้ว่า Services ทำงานแล้วหรือยัง
วิธีดูก็คือ เราต้องรู้ว่า SQL Service ให้บริการรออยู่ที่ port 1433 เราจึงตรวจดูว่าตอนนี้ยังใช้งานไม่ได้
เพราะเรายังไม่ได้เปิด Service ผมเปิด Command Prompt แล้ว พิมพ์ netstat -an | find /i "listen" แล้วกด enter หรือ เอาสั้นๆ netstat -an | find /i "1433" มันจะไม่ขึ้นอะไร
ให้ทำการตั้งค่าต่อโดยเปิด Start menu เลือก SQL Server 2005 Surface Area Configuration จากกลุ่ม MS SQL Server 2005
เป็นโปรแกรมที่เรามักจะหลงมาเปิด แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะเอาไปทำอะไรได้ แต่ตอนนี้ เพื่อให้สามารถใช้งานผ่าน LAN ได้
โปรแกรมนี้เริ่มมีประโยชน์แล้วครับ เริ่มกันเลย ด้านล่างมีลิงค์ Surface Area Configuration for Services
and Connections คลิ๊กเลย
จาก Tree ด้านซ้าย เลือก Remote Connections เลยครับ หน้าจอด้านขวาก็จะเปลี่ยนให้เลือก
โดยค่าเดิมคือ Local connections only (ทำให้เราไม่สามารถ ใช้งานผ่าน LAN ได้)
ให้เลือกค่าใหม่เพื่อให้ใช้งานได้ เลือก Local and remote connections ตัวเลือกย่อย
ให้เลือก Using TCP/IP only นะครับ ตัว name pipes เขาบอกว่า ไม่จำเป็น เพราะมันจะทำให้มีข้อมูล
วิ่งในเครือข่ายมากเกินไป หากเราใช้ LAN อยู่ เพียงแค่ TCP/IP ก็พอแล้ว เลือก และกด Apply
แล้ว กด OK จะมีคำเตือนบอกให้ restart จึงจะมีผล ต่อไปเราจะทำการ Restart SQL Service
ให้คุณ ทำการ restart SQL Service ตามวิธีที่คุณถนัดได้เลย ในที่นี้ผมขอแนะนำให้รู้จัก โปรแกรมเหมือนกับ
SQL Service Manager ใน SQL Server 2000 คือ เปิดโปรแกรม SQL Server Configuration Manager ด้านซ้าย เลือก SQL Server 2005 Services ด้านขวาเลือก SQL Server แล้ว กดปุ่ม restart จากแถบเครื่องมือ
ด้านบน รอสักครู่ก็เสร็จ
เมื่อทำเสร็จทุกขั้นตอนที่ผ่านมา จากนี้คุณก็สามารถใช้งานได้แล้ว คุณสามารถที่จะใช้โปรแกรมตัวใดก็ได้
เช่น Query Analyser, Server Explorer ใน Visual Studion และตัวอื่นๆ ส่วนมากจะใช้ได้ครับ
แต่ยกเว้นตัวหนึ่งที่ไม่สามารถใช้ได้ คือ Enterprise manager ของ MS SQL Server 2000
ผมขอแนะนำให้ใช้ SQL Server Management Studio ครับ มีเวอร์ชั่นสำหรับ Express ด้วย ซึ่ง
Download ได้ครับ ตอนนี้ ผมก็เพิ่มส่วนการทดสอบว่าตอนนี้ Service ของ SQL Server Express ที่เราติดตั้งไว้
ทำงานรอการเชื่อมต่อแล้วหรือยัง ให้เปิด Command Prompt แล้ว พิมพ์คำสั่ง
netstat -an -p tcp | find /i "listening" มองหา บรรทัด ของ port 1433
ถ้ามีก็แีสดงว่าทำงานได้เรียบร้อยแล้ว
*เพิ่มนิดนึงครับ สำหรับ command netstat คุณสามารถปรับแต่ง arguments ได้นะครับ
เช่น netstat -an -p tcp | find /i "1433" แล้ว ผลก็คือ จะมีการคืนผลลัพธ์มา 1 บรรทัด
จบแล้วครับ สำหรับการติดตั้ง SQL Server Express Edition ให้สามารถทำงานเป็น Database Server บน LAN
จากการติดตั้งมีส่วนที่สำคัญมากๆ 3 ส่วน คือ
จากการติดตั้งมีส่วนที่สำคัญมากๆ 3 ส่วน คือ
1. Mixed Mode authentication ซึ่ง จะทำให้เรามีปัญหาในการเชื่อมต่อ ผ่านแลน
2. Server และ Instance Name ต้องเรียกให้ถูก และ
3. ต้องทำการตั้งค่าเพื่อเปิดให้สามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายได้
การติดตั้งอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นจะสะดวกและสบายมากกว่า ติดตั้งโดยค่า default
แล้วมาตั้งค่าเพื่อแก้ไขภายหลัง เพราะว่า SQL Server Express นั้น ไม่มีเครื่องมือ
หรือโปรแกรมมาให้เราตั้งค่าได้มากนัก มีเฉพาะ Database Engine เท่านั้น
No comments:
Post a Comment